หลักการจัดฮวงจุ้ยเพื่อสุขภาพ ที่ดูเป็นเรื่องเหนือธรรมชาติแต่ให้ผลเปลี่ยนแปลงชีวิตใครหลายคน ทุกวันนี้แม้วิชาการกำลังเป็นเพียงคำอธิบายเสริมบางส่วนของฮวงจุ้ย แต่ก็มีน้ำหนักพอให้ศาสตร์นี้เป็นที่ยอมรับอย่าง กว้างขวางในหลายประเทศทั่วโลก โดยเฉพาะในแถบตะวันตกที่เริ่มตระหนักถึงภูมิปัญญาตะวันออก
จัดการสุขภาพด้วยหลักฮวงจุ้ย
ฮวงจุ้ย เป็นศาสตร์ที่ว่าด้วยเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับระบบนิเวศในระดับ ต่างๆ ทั้งระบบ นิเวศใหญ่ เช่น ปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติ การเคลื่อนย้ายตำแหน่งดาว และระบบนิเวศเล็กๆ เช่น สังคม ชุมชน บ้านเรือน ที่อยู่อาศัย ชาวจีนเชื่อกันมาตั้งแต่โบราณแล้วว่า อวัยวะต่างๆ จะทำงานได้ต้องมีพลังงานเรียกว่า พลังชี่ ซึ่งเป็นอย่างเดียวกับมวลพลังของโลกและจักรวาล อันหมายถึงกระแสลม น้ำ สนามแม่เหล็ก ดวงดาว พลังงานต่างๆ ทั้งที่มองเห็นและมองไม่เห็นการจะมีสุขภาพดีต้องได้รับพลังพลังชี่ที่เพียง พอและมีการหมุนเวียนที่ดีและนี่คือส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันที่คุณทำได้ เพื่อให้มีสุขภาพพลานามัยและโชคลาภอันสมบูรณ์
1. จัดห้องนอน ห้องนอนไม่ควรอยู่ทางทิศตะวันตก เพราะรับแสงแดดช่วงบ่ายเป็นระยะเวลานาน สะสมความร้อน ทำให้นอนไม่ค่อยสบาย หลับไม่สนิทและเกิดอาการอ่อนเพลียได้ ประตูห้องนอนไม่ควรตรงกับห้องสุขาอาจทำให้มีปัญหาสุขภาพเสื่อมโทรม เจ็บออดๆ แอดๆ อยู่เสมอ เพราะห้องสุขาเต็มไปด้วยชี่อันชั่วร้าย ซึ่งถ้าดูตามหลักวิทยาศาสตร์แล้ว น่าจะหมายถึงเชื้อแบคทีเรียที่ก่อโรคต่างๆ ตลอดจนความชื้น กลิ่นไม่พึงประสงค์ ห้องนอนไม่ควรอยู่ใกล้ห้องครัว เพราะพลังชี่ที่ร้อนแรงจากห้องครัวจะแผ่เข้ามากระทบกับสุขภาพของคนในห้องนอนได้ ละอองคราบน้ำมันและกลิ่นของอาหาร จะทำให้ผู้นอนมีปัญหาสุขภาพ และอาจมีพาหะนำโรค อย่าง หนู แมลงสาบ เตียงกับประตูห้องนอนไม่ควรอยู่ตรงกัน ตำแหน่งใกล้ประตูค่อนข้างวุ่นวาย มีคนเปิดเข้าเปิดออกรบกวนการนอน ทำให้นอนหลับไม่เพียงพอ อาจเกิดอาการผวาสะดุ้งตื่นบ่อยครั้ง เมื่อได้ยินเสียงผิดปกติใกล้ประตู ทำให้หงุดหงิด ฉุนเฉียวง่าย และรับฝุ่นละอองอยู่เสมอ
วิธีแก้ง่ายๆ ควรหาบานพับลายสวยๆ มากั้นเอาไว้ และให้วางเตียงติดกับผนังห้องด้านตรงข้ามกับประตูห้องนอน หรือทแยงกับประตูห้องนอนเสมอ อย่าตั้งเตียงใต้คานคาน เป็นโครงสร้างที่มีแรงกดทับส่งผลกระทบต่ออวัยวะ ร่างกาย หากคานอยู่ตรงกับส่วนท้องอาจเป็นโรคเกี่ยวกับช่องท้อง ในแง่วิทยาศาสตร์ เหล็กเส้นภายในคานสัมพันธ์กับเส้นแรงแม่เหล็กและแรงดึงดูดของโลก และผลจากแรงดึงนี้เองที่ทำให้ผู้นอนรู้สึกไม่สบายตัว
2. เปลี่ยนแปลงห้องครัว ควรตั้งในทิศตะวันออกที่กระตุ้นธาตุไม้ (ทิศตะวันออก) เสริมธาตุไฟ ทำให้ผู้ปรุงอาหารได้รับแสงแดดอ่อนๆ มีจิตใจสดชื่นแจ่มใส ไม่ควรทำครัวทางทิศเหนือเพราะเป็นด้านที่จะปะทะกับลมแล้งในฤดูหนาวทำให้ป่วย ง่าย ห้องครัวไม่ควรเป็นที่แรกที่เปิดบ้านเข้ามาพบ เพราะห้องครัวแทนด้วยธาตุไฟ ถ้าอยู่ตำแหน่งหน้าบ้านก็จะขัดขวางพลังชี่ดีๆ ที่เข้ามาสู่บ้าน ควันและละอองน้ำมันจะลอยไปจับผนังและเฟอร์นิเจอร์ ทำให้บริเวณหน้าบ้านไม่สะอาด และเป็นแหล่งเพาะเชื้อ อย่าวางเตาใต้คาน เพราะทำให้พลังชี่จากคานกดทับลงมาบริเวณเตา เกิดปัญหาสุขภาพในช่องท้อง เช่น โรคกระเพาะ โรคลำไส้ คานยังเป็นที่สะสมคราบสกปรกจากการทำอาหารที่จะร่วงหล่นลงในภาชนะหุงต้ม เป็นที่มาของโรคภัยต่างๆ เตาต้องอยู่ในที่ที่ผู้ปรุงอาหารสามารถมองเห็นผู้เข้ามาในครัวได้ ขณะกำลังทำงาน ถ้าหันหลังให้ประตูครัว ครอบครัวจะทะเลาะกัน ถ้าแม่ครัวมองไม่เห็นคนที่เข้ามา อาจตกใจจนทำให้การปรุงอาหารนั้นเสียรส หรือเกิดอุบัติเหตุ
3. สร้างตำแหน่งห้องน้ำ ควรตั้งในทิศตะวันตก เพราะเป็นทิศที่ได้รับแสงแดดเป็นเวลานาน ช่วยลดความชื้น ยับยั้งแบคทีเรีย ซึ่งทำให้ไม่มีปัญหาสุขอนามัยตามมา ตำแหน่งไม่ควรอยู่กลางบ้านเพราะจะทำให้อับโชค โถสุขภัณฑ์ควรอยู่ในตำแหน่งหลบมุม ไม่ควรอยู่ใกล้กับประตูห้องน้ำมากเกินไป เพราะกลิ่น ความอับชื้น และเชื้อแบคทีเรีย จะเล็ดลอดออกมาทางประตู โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าห้องสุขาอยู่ใกล้กับห้องครัว จะไม่ถูกสุขอนามัย และไม่เจริญตา เมื่อมีคนเดินผ่าน
วิธีแก้ง่ายๆ ควรหาบานพับมากั้น หรือติดตั้งดวงไฟเพิ่มอีกดวง ดูเล็กน้อยเหลือเกิน เมื่อเทียบกับความเปลี่ยนแปลงที่ดีในชีวิต โดยเฉพาะสุขภาพ และถ้าคุณเป็นอีกคนที่อยากสร้างความหวัง กำลังใจให้ตัวเอง และคนรอบข้าง จะลองทำฮวงจุ้ยที่บ้านบ้างก็ไม่มีใครว่างมงายหรอกค่ะ เพราะในชีวิตการทำอะไรมากย่อมดีกว่าทำน้อย
ขอบคุณข้อมูลประกอบจาก www.thaihomeonline.com/
ขอบคุณภาพประกอบจาก Photos.com