ปกติการสร้างบ้านหรือที่อยู่อาศัยให้ถูกต้องตามหลักฮวงจุ้ยนั้น ก็เพื่อให้เจ้าบ้านและสมาชิกของบ้านมีสุขภาพที่แข็งแรง ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ มีทรัพย์สินเงินทองให้เก็บ ในวิชาฮวงจุ้ยจึงได้เน้นหรือให้ความสำคัญแก่เรื่องของห้องครัวเป็นพิเศษ เพราะห้องครัวเป็นสถานที่ผลิตและปรุงอาหารในสมัยก่อนการวางตำแหน่งห้องครัวมักจะนิยมไว้ทางด้านทิศตะวันออกและทิศใต้ ทั้งนี้ก็เพื่ออาศัยในเรื่องของแสงแดดและทิศทางลมที่ผ่านเข้ามาช่วยให้จุดไฟติดได้ง่าย ทิศทั้งสองนั้นไม่ร้อนจนเกินไป หากอยู่ด้านตะวันตกแสงแดดที่ร้อนจัดอาจทำให้อาหารเสียได้ง่าย เรื่องของตำแหน่งการวางครัวบางท่านหรือบางทฤษฎีก็ยึดหลักในเรื่องของทิศทางที่สัมพันธ์กับเรื่องของธาตุ เช่นธาตุไม้ ( ทิศตะวันออก ) ก่อให้เกิดธาตุไฟ ( ทิศใต้ ) เป็นตัวกำหนดตำแหน่ง
ในบางยุคบางสมัยก็เชื่อว่าครัวเป็นตัวกำหนดโชคลาภ เป็นเหมือนท้องพระคลังหรือขุมทรัพย์ ตำแหน่งครัวจึงไม่ควรวางไว้ในตำแหน่งที่คนนอกสามารถมองเห็น เพราะโชคจะถูกแย่งชิง หรือไม่ก็โชคจะโบยบินหนีออกไปจากบ้านได้ง่าย จึงไม่นิยมวางครัวไว้หน้าบ้าน หรือพอเดินเข้าบ้านก็เจอกับห้องครัวเลยหากอยู่หน้าบ้านหรืออยู่กลางบ้านอาจจะส่งผลไม่ดีในเรื่องของการเก็บเงินทองไม่อยู่บ้าง ถูกโกงบ้าง แต่มีข้อสังเกตประการหนึ่ง ร้านอาหารหลายแห่งในปัจจุบันมักจะวางครัวอยู่หน้าร้าน มองดูขายดีเป็นเทน้ำเทท่า แต่ก็เป็นสิ่งที่มองเห็นจากภายนอกเท่านั้น ข้อเท็จจริงภายในที่เกิดขึ้นก็คงยากที่จะรู้
ครัวจะต้องมีความสมดุลของ หยิน-หยาง สะอาด มีแสงสว่างและยังจะต้องมีการถ่ายเทอากาศที่ดีด้วย ตำแหน่งของห้องครัวโดยทั่วไปจึงมักจะวางไว้หลังบ้าน เพราะการระบายกลิ่นไอ หรือควันที่เกิดจากการปรุงอาหารสามารถทำได้ง่าย ไม่เป็นการรบกวนเพื่อนบ้านเหมือนกับการวางไว้หน้าร้าน บางแห่งเพื่อนบ้านกลายเป็นศัตรูกันเพราะปัญหาที่เกิดจากเรื่องของการปรุงอาหาร
ในวิชาฮวงจุ้ยเรื่องของครัวนั้น จะให้ความสำคัญกับเรื่องของตำแหน่งเตาไฟมาตั้งแต่สมัยราชวงศ์ชิงมาแล้ว โดยถือว่าเตาไฟจะแทนโชคลาภของครอบครัว เป็นสัญลักษณ์ของการหล่อเลี้ยงผู้คนในบ้านเตาไฟจึงต้องหันหาตำแหน่งที่เป็นมงคล เพื่อให้อาหารที่ปรุงจากเตาได้รับพลังงานที่ไหลเวียน ทำให้สมาชิกในบ้านมีโชคลาภ มีสุขภาพแข็งแรง ชีวิตราบรื่น โรคภัยไข้เจ็บน้อย และหากวางหรือหันผิดตำแหน่งจะทำให้เกิดอุปสรรค คดีความ ทรัพย์สินร่อยหรอ เกิดปัญหาลักเล็กขโมยน้อย และเกิดโรคภัยไข้เจ็บขึ้น คนในครอบครัวร่างกายอ่อนแอ ขี้โรค การงานก็จะไม่ราบรื่น ลักษณะของการวางเตาไฟที่ดีนั้น
1. เตาไฟไม่ควรวางใกล้น้ำ หรือติดกับก็อกน้ำ อ่างน้ำ หรืออยู่ในแนวเดียวกับถังเก็บน้ำ เพราะเป็นการรวมเอาธาตุสองธาตุที่ขัดแย้งกันมารวมไว้ที่ฝาผนังด้านเดียวกันหรือตรงกันข้ามกัน จะก่อให้เกิดคลื่นของความถี่ที่ขัดแย้งกัน เมื่อพลังของน้ำและไฟขัดแย้งกัน บรรยากาศของครัวก็จะไม่กลมกลืนกัน แม่บ้านรวมถึงสมาชิกของบ้านมักจะชอบโต้แย้งและขี้หงุดหงิดได้ง่าย แม้ก๊อกอยู่ไกลแต่หันหน้าหาตัวเตาพอดี ก็ถือว่าปะทะกัน ธาตุไฟจะถูกบั่นทอนโดยธาตุน้ำ อาหารที่ปรุงขึ้นมาย่อมเป็นผลเสียต่อสุขภาพ ทำให้คนในบ้านมีปัญหาเรื่องของการย่อย การดูดซึม โรคกระเพาะ ลำไส้ ตับ อุบัติเหตุ และการผ่าตัด
2. เตาไฟไม่ควรวางตรงกับประตูส้วมหรือห้องน้ำ จะมีปัญหาการลักทรัพย์หรือเสียทรัพย์เกิดขึ้น เกิดโรคเกี่ยวกับทางเดินปัสสาวะ โรคไต นิ่วในไต หรือตำแหน่งของอวัยวะอื่นที่นำไปสู่การเป็นมะเร็ง
3. ห้ามวางเตาไฟอยู่ใต้คาน ไม่ว่าบนเพดานจะมีคานตรงหรือคานขวางก็ตาม เพราะในตัวคานจะมีพลังกดทับและซึมสู่อาหารที่ปรุง ทำหึความต้านทานโรคลดน้อยลง สุขภาพแย่ คนในบ้านมักจะมีโรคเกี่ยวกับลำคอ จมูก ตา หรือเบาโรคเบาหวาน ริดสีดวงทวาร และเวลาที่เป็นแล้วมักจะรักษาให้หายยาก คือเป็น ๆ หาย ๆ ต้องทนทุกข์ทรมาน ล้มป่วยได้ง่าย ยิ่งถ้าเป็นห้องครัวของโรงงาน อาจทำให้คนงานเบื่อรสชาติอาหาร ทำงานก็ไร้ประสิทธิภาพ ทำงานไม่อดทน และลาออกกันบ่อย ๆ ซึ่งอาจสร้างปัญหาให้กับผู้บริหารโดยไม่ทราบสาเหตุ
4. เตาไฟไม่ควรวางอยู่ข้างเครื่องซักผ้า เป็นธาตุที่ต่างกัน และอาจเกิดปัญหาไฟดูด ไฟรั่ว
5. เตาไฟต้องตั้งพิงกำแพง หรือด้านหลังเป็นผนังทึบ เตาไฟที่วางลอย ๆ ไม่มีอะไรกั้น ไม่มีกำแพงกั้น เท่ากับขาดพลัง ขาดโชค ตวามมั่นคงหรือเสถียรภาพทางการเงินก็จะไม่มี ปัญหาที่เกิดจากการใช้ประการหนึ่ง คือเปลืองเชื้อเพลิง การทำอาหารก็ไม่สะดวก
6. หลังเตาไฟไม่ควรมีบ่อน้ำ
7. ปัจจุบันบ้านที่อยู่อาศัย มักจะมีครัวในและครัวนอก การวางครัวนอกหากอยู่นอกชายคาบ้าน จะต้องทำเป็นกิจลักษณะ มีการกั้นเป็นห้องคือกั้นกำแพงซ้ายขวาขึ้นมา ไม่ควรปล่อยลอย ๆ หรือปล่อยเตาให้ตากแดดตากฝน
8. ห้ามตากผ้าเหนือเตาไฟ การตากผ้าเหนือเตาหรือในครัว อาจทำให้กลิ่นอาหารติดเสื้อผ้า เชื้อโรคลงสู่อาหารได้ง่าย เวลาซักผ้ากลิ่นสารเคมีในผงซักฟอก อาจวนเวียนอยู่ในครัว อาจติดเข้าไปในอาหาร เสื้อผ้าที่ซักก็มีทั้งชุดชั้นใน ถุงเท้า คราสกปรก อาจทำให้เกิดมลภาวะขึ้น คนจีนโบราณถือกันมานานแล้วว่า ครัวนั้นถือเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ มีเทพเตาอาศัยอยู่ ซึ่งจะมีการไหว้เทพเจ้าเตาไฟทุกปี การตากผ้าไว้ในครัวจะทำให้สิ่งที่เป็นมงคลหนีออกไป
ปัญหาของหลายครอบครัวเกี่ยวกับการวางเตาไฟ
1. หลังเตาไฟ มีหน้าต่างได้หรือไม่ ถ้าไปฟังหรือไปยึดตำราฮวงจุ้ยบางเล่มคำตอบก็คือไม่ได้ แต่เหตุผลของคนโบราณในสมัย ก็คือ การมีหน้าต่างอยู่หลังเตา จะทำให้คนข้างนอกมองเข้ามาเห็นผู้หญิงในบ้านได้ชัดเจน สมัยก่อนผู้หญิงอายุน้อย ๆ มักต้องเก็บตัว รักนวลสงวนตัวไม่ให้ใครเห็นได้ง่าย ๆ จึงถือว่าไม่เป็นมงคล
2. เตาไฟวางตรงกับประตูทางเข้าครัวได้หรือไม่ ปกติห้องครัวนั้นมักจะรก และมีสิ่งของวางเกะกะไม่น่าดู คนภายนอกสามารถมองเห็นสภาพในห้องครัวได้ชัดเจน และเวลาทำอาหาร เมื่อเตาไฟวางหันหลังให้ประตู คนปรุงอาหารก็ไม่สามารถมองเห็นอะไรด้านหลังที่อยู่หน้าบ้านได้ อาจพะวง หรือเวลามีใครเข้ามาเงียบ ๆ อาจตกใจ สะดุ้ง หรือทำให้อาหารหกคว่ำได้ง่าย จึงอาจมีผลต่ออารมณ์ของคนปรุง จึงมีบางคนนำกระจกมาติดหลังเตา ปกติการวางตำแหน่งและทิศทางของเตาจะต้องอาศัยทิศทางของบ้าน ห้องครัว พื้นดวงของเจ้าบ้าน และยุคของฮวงจุ้ย เป็นองค์ประกอบในการวาง
ดังนั้น การวางตำแหน่งของเตาไฟที่ผิด 1. ทำให้โชคชะตาของผู้อยู่ขึ้น ๆ ลง ๆ ไม่มั่นคง เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย รายรับรายจ่ายไม่คงที่ หาเงินเก่งแต่เก็บออมเงินไม่อยู่ 2. เรื่องความสัมพันธ์สมาชิกในครอบครัวเป็นไปในทางลบ เกิดปากเสียงความขัดแย้ง ความวุ่นวายขึ้น 3. เกิดอุปสรรคในเรื่องของงาน คดีความ และเคราะห์กรรมที่อาจคาดไม่ถึง